ประวัติโดยย่อ

       พระคริสตธรรมเพ็นเทคอสในประเทศไทย ได้ก่อขึ้นในใจของ ศจ.วิลเลี่ยม เอฟ บุทเช่อร์ มิชชันนารีคนแรกของ P.A.O.C.ที่ได้เข้ามาในประเทศไทยในปีค.ศ.1961 และเป็นผู้ที่ก่อตั้งคริสตจักรพระเจ้าทรงเรียก ท่านได้เดินทางไปแคนาดาในปีค.ศ.1965 โดยตั้งใจว่าจะหาทุนการถวายแล้วกลับมาเปิดพระคริสตธรรมในประเทศไทย แต่ท่านประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต  ต่อมาท่าน ศจ.รอนัลด์ อี.ไวท์ ได้เป็นผู้สืบทอดนิมิตนี้ โดยตั้งโรงเรียนพระคริสตธรรมภาคค่ำ มีนักศึกษารุ่นบุกเบิก 5 คน ใช้บ้านของซารอน ไบเบิล เซนเตอร์ สุขุมวิท11  แต่ท่าน ศจ.ไวท์ ได้เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ 11 ก.ค.1969   ต่อมา ศจ.โรเบิร์ต อีเมล์ ได้เข้ามาเป็นครูใหญ่และศิษยาภิบาลคริสตจักรพระเจ้าทรงเรียก ปลายปีค.ศ.1970 แต่เพียง1ปีเท่านั้นท่านก็เสียชีวิต

       ภรรยาของท่านศจ.รอนัลด์ อี.ไวท์ ได้เดินทางไปแคนาดาและบอกข่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้น พี่น้องชาวแคนาดาได้มีภาระใจร่วมกันถวายเงินเพื่อสร้างโรงเรียนพระคริสตธรรมและคริสตจักรเป็นเงิน 2,200,000 บาท ซึ่งได้นำไปซื้อที่ดินในซอยสุขุมวิท6 เพื่อตั้งเป็นทั้งคริสตจักรพระเจ้าทรงเรียกและโรงเรียนพระคริสตธรรม  ต่อมาได้เปลี่ยนชื่อจากโรงเรียนพระคริสตธรรมมาเป็นศูนย์ฝึกอบรมศาสนทูต ในปี ค.ศ.1973 เริ่มต้นด้วยหลักสูตรการศึกษา 1 ปี และพัฒนาเป็นหลักสูตร 3 ปี

       ต่อมาในปี ค.ศ.1985 เปลี่ยนหลักสูตรเป็น 4 ปี และให้ปริญญาบัตร โดยรับนักศึกษาม.3 และ ม.6 พร้อมทั้งการเปลี่ยนชื่อศูนย์ฝึกอบรมศาสนทูตให้เป็นพระคริสตธรรมเพ็นเทคอสในประเทศไทย(พ.พ.ท.) ในปีค.ศ.1999 ได้เพิ่มหลักสูตร C.Min (ประกาศนียบัตรพันธกร 1 ปี)   ในปีค.ศ. 2000 ได้เปลี่ยนหลักสูตรปริญญาตรีคริสเตียนศึกษาและศาสนศาสตร์ เป็น B.Min (ปริญญาตรีพันธกิจ 4 ปี)   ในปีค.ศ.2004 สถาบันได้เปิดหลักสูตร M.Min  ปริญญาโทพันธกิจ 2 ปี  ขอบคุณพระเจ้า ในปีค.ศ.2005 คณะกรรมการรับรองวิทยฐานะ ATA (Asia Theological Association)  ได้รับรองวิทยฐานะให้ พ.พ.ท. ในระดับปริญญาตรี  ส่วนปริญญาโทจะรับรองเมื่อมีผู้จบการศึกษาส่วนหนึ่งแล้ว  โดยเปลี่ยนชื่อหลักสูตรปริญญาตรีจาก B.Min เป็น B.Th (Ministry) และปริญญาโทจาก M.Min เป็น M.A. (Ministry)

       ในปี ค.ศ. 2007 สหกิจคริสเตียนฯ ได้แจ้งให้สถาบันที่ขึ้นตรงต่อ สคท. และสถาบันโรงเรียนพระคริสตธรรมใต้องค์กรหรือองค์กรใดงดการออกใบปริญญาบัตรแก่ผู้จบหลักสูตร ให้ใช้คำว่า  “คริสตศาสนศาสตร์ศึกษา” (ตรี) สาขาศาสนศาสตร์ และ “คริสตศาสนศาสตร์ศึกษา” (โท) สาขาพันธกิจ  ส่วน C.Min ยังคงเหมือนเดิม  และยังได้ร่วมมือกันระหว่างพระคริสตธรรม 4 แห่ง คือ   พระคริสตธรรมเพ็นเทคอสในประเทศไทย   พระคริสตธรรมคริสเตียนสัมพันธ์  พระคริสตธรรม  พระกิตติคุณสมบูรณ์ และคริสตศาสนศาสตร์ภาคใต้ เปิดสอนคริสตศาสนศาสตร์ศึกษา (โท)  สาขาพันธกิจ(G.T.S) หลักสูตร 1 ปี โดยทำการสอนที่พระคริสตธรรมเพ็นเทคอสในประเทศไทย

       ขณะเดียวกันก็มีดำริตั้งคณะกรรมการอำนวยการชุดใหม่ขึ้น   พร้อมทั้งเชิญกลุ่มคณะ    เพ็นเทคอสอื่นเข้าร่วมเป็นกรรมการ  เพื่อแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่า  พ.พ.ท. ควรจะเป็นกลางท่ามกลาง คณะต่างๆ และต่อมาในปี ค.ศ.1987 พ.พ.ท.ได้ย้ายออกจากสุขุมวิทซอย 6 ไปเช่าตึก 3 คูหาในซอยสุขุมวิท 66/1  ต่อมา 3 ปีให้หลังได้ย้ายมา ซอยอุดมสุข 37 ถนนสุขุมวิท 103 พร้อมทั้งได้ประกอบพิธีเปิดอาคารเรียน เมื่อวันเสาร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 1990   ท่ามกลางแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายและอยู่จนถึงปัจจุบันนี้

       เพื่อตอบสนองคริสตจักรไทยตามบริบทปัจจุบัน จึงได้จัดการศึกษาพระคริสตธรรมระบบการศึกษาทางไกล หลักสูตรคริสตศาสตร์ศึกษาตรี เพื่อถ่ายทอดความรู้และพัฒนาทักษะการรับใช้ให้กับคริสเตียนที่สนใจ โดยไม่ต้องละทิ้งการงานอาชีพ คริสตจักรและครอบครัว โดยเริ่มเปิดการศึกษาครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2015 และในปี 2020 ได้เพิ่มเติมหลักสูตรพัฒนาผู้นำฆราวาส METP แบบ Online เพื่อเสริมสร้างผู้นำคริสตจักรไทย และได้มีการประสานการเปิดสอนหลักสูตรโทนอกสถานที่ ที่จ.หนองคาย เพื่อสอนผู้นำคริสตจักรที่มาจากประเทศลาว จนถึงปัจจุบันพระคริสตธรรมเพ็นเทคอสสามารถผลิตผู้รับใช้ออกไปสู่การรับใช้ในคริสตจักรและงานพันธกิจต่างๆกว่า เจ็ดร้อยคน ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการเริ่มต้นที่พระเจ้าทรงนำในอดีต ผ่านมิชชั่นนารีPAOC จนมาถึงความสำเร็จและการเกิดผลในปัจจุบัน 

 

ขอพระเจ้าทรงอวยพร

ปรัชญา

พระคริสตธรรมเพ็นเทคอสในประเทศไทยเป็นสถาบันที่ทำหน้าที่เหมือนศูนย์กลางในการฝึกอบรมบุคลากรที่พระเจ้าได้ทรงเรียกให้เป็นผู้รับใช้ของพระองค์ หลังจากที่บุคคลเหล่านี้ได้รับการอบรมเบื้องต้นจากคริสตจักรท้องถิ่นแล้ว ในการนี้พระคริสตธรรมเพ็นเทคอสในประเทศไทยจะพยายามสร้างเสริมชีวิตที่สมดุลระหว่างความรู้ทางวิชาการ ทักษะความสามารถในการรับใช้ และการพัฒนาชีวิตฝ่ายวิญญาณในตัวของนักศึกษา เพื่อให้พวกเขาสามารถมีชีวิตอย่างสาวกของพระเยซูคริสต์ และสามารถสร้างเสริมคนอื่นให้เป็นสาวกได้ ดังกล่าวนี้ พระคริสตธรรมเพ็นเทคอสในประเทศไทยจักต้องเป็นศูนย์กลางของคณาจารย์ซึ่งมีวุฒิภาวะถ่ายทอดวิชา ความรู้ ทักษะความชำนาญ ตลอดจนแบบอย่างชีวิตให้กับนักศึกษา ไม่เพียงแต่ในชั้นเรียนเท่านั้น แต่ด้วยความสัมพันธ์ในการใช้ร่วมกับนักศึกษาด้วย